5 พฤติกร รมทำร้า ยรถโดยไม่รู้ตัว

5 พฤติกร รมทำร้า ยรถโดยไม่รู้ตัว

รถยนต์ 1 คัน เกิดจากการประกอบชิ้นส่วนมากมายเข้าไว้ด้วยกันจากโรงงานผู้ผลิต ซึ่งต่างก็ต้องการการดูแลรักษาด้วยกันทุกชิ้น เพื่อให้รถสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์ ไร้ปัญหาจุกจิกกวนใจ แต่ก็ยังมีผู้ขับขี่อีกหลายคนที่มีพฤติกร รมทำร้ ายรถ (โดยไม่ตั้งใจ) ที่แม้จะไม่เห็นผลในระยะสั้น แต่อาจบั่นทอนอายุการใช้งานในระยะยาวอย่างแน่นอน จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันครับ

ขับผ่านหลังเต่าโดยไม่ชะลอ

Speed Hump หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หลังเต่า” เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ลดความเร็ว เนื่องจากเป็นที่ชุมชน หรือในที่ที่จำเป็นต้องขับอย่างระมัดระวัง แต่ก็มีผู้ขับขี่หลายคนขับผ่านหลังเต่าโดยไม่ชะลอความเร็วเท่าที่ควร (หรืออาจไม่แตะเบรกเลยด้วยซ้ำ) ซึ่งมีผลต่อระบบช่วงล่างโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นโช้กอัป, สปริง, ลูกหมาก, ปีกนก, แร็ก, ยอยพวงมาลัย ฯลฯ ที่จะต้องรับแ รงกระแท กมากกว่าที่ควรจะเป็น

ทั้งนี้ ยังรวมไปถึงขณะขับผ่านทางขรุขระ, ฝาท่อ, คอสะพาน ฯลฯ หากใช้ความเร็วเหมาะสมเคลื่อนผ่านสิ่งเหล่านี้ ก็จะช่วยยืดระยะเวลาการเปลี่ยนชิ้นส่วนช่วงล่างได้เป็นอย่างดี

สตาร์ทรถไม่ปิดแอร์

แม้ว่ารถยนต์ในปัจจุบันจะตัดการทำงานของระบบไฟในรถ รวมถึงพัดลมแอร์ลงชั่ วคราวขณะที่มีการสตาร์ทเครื่องยนต์ แต่การเปิดแอร์ทิ้งเ อาไว้ จะทำให้คอมเพรสเซอร์แอร์เริ่มทำงานทันทีหลังจากเครื่องยนต์สตาร์ทติด ซึ่งเป็นช่วงที่รอบเครื่องยนต์พุ่งขึ้นสูง เนื่องจากต้องเพิ่มแ รงดันน้ำมันไปหล่อเลี้ยงชิ้นส่วนต่างๆ ทำให้มีการกระชากของคอมเพรสเซอร์แอร์ ส่งผลให้มีอายุการใช้งานสั้นลง

จอดรถบนทางลาดชันเป็นประจำ

คนใช้รถเกียร์ออโต้จะทราบกันดีอยู่แล้วว่า การจอดรถบนทางลาดชันด้วยเกียร์ P จะทำให้รถไม่ไหล แต่รู้ไหมว่าชิ้นส่วนที่ต้องรับภาระน้ำหนักรถก็คือสลักล็อคเกียร์ชิ้นเล็กๆเท่านั้น จะสังเกตได้ว่าหากจอดรถบนทางชัน เมื่อดึงคันเกียร์จากตำแหน่ง P มาเป็นเกียร์ R จะมีเสียงดัง กึก ออกมาจากชุดเกียร์ ซึ่งเกิดจากการขัดกันของสลักอย่างรุนแ รงนั่นเอง

ทางที่ดีหากจำเป็นต้องจอดรถบนทางลาดชัน ให้จอดรถจนนิ่งสนิทเรียบร้อย แล้วจึงดึงเบรกมือขึ้นจนสุดก่อนเท้าจะปล่อยแป้นเบรก จากนั้นค่อยๆปล่อยเบรกเพื่อให้แน่ใจว่ารถไม่ไหลแล้ว จึงค่อยเหยียบเบรกอีกครั้งแล้วใส่เกียร์ P เป็นอันจบขั้นตอนบำรุงรักษาเกียร์แบบง่ายๆ ที่ควรทำให้เป็นนิสัย

เร่งเครื่องรุนแร งขณะเครื่องยนต์เย็น

โดยปกติแล้วหากเครื่องยนต์ดับลง น้ำมันเครื่องจะไหลลงไปรวมกันในอ่างน้ำมันเครื่องด้านล่าง ดังนั้น เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์ตอนเช้าๆ รอบเครื่องยนต์จะพุ่ งขึ้นสูงกว่าปกติ เพื่อให้น้ำมันเครื่องขึ้นไปหล่อลื่นตามชิ้นส่วนต่างๆในห้องเครื่องได้อย่างทั่วถึง

ดังนั้น หากเพิ่งสตาร์ทรถใหม่ๆ จึงไม่ควรเร่งเครื่องอย่างรุนแร งในทันที เพราะจะทำให้ชิ้นส่วนเครื่องยนต์สึ กหรอเร็วกว่าปกติ

คิกดาวน์บ่อย พั งทั้งเครื่องทั้งเกียร์

การคิกดาวน์ ก็คือการเพิ่มความเร็วด้วยการกดคันเร่งจนมีการทดอัตราเกียร์ต่ำลง (เช่น เกียร์ 4 ไปเกียร์ 3) ซึ่งจะช่วยเรียกพละกำลังของรถให้เพิ่มมากขึ้น ใช้สำหรับการเร่งแซง หรือจังหวะที่ต้องเพิ่มความเร็วแบบทันทีทันใด แต่บรรดาขาซิ่งใจร้อนที่ชอบคิกดาวน์บ่อยๆ รู้หรือไม่ว่านั่นทำให้เกียร์อัตโนมัติกลับบ้านเก่าเร็วกว่าปกติ

เนื่องจากการคิกดาวน์จะทำให้มีการสลับเฟืองเกียร์ด้วยแ รงบิดที่สูงกว่าปกติ ก่อให้เกิดอาการเกียร์กระชาก ซึ่งเป็นปัจจัยให้เกิดความเสียหายต่อชุดเกียร์ได้มากขึ้น แม้แต่เกียร์ระบบ CVT ที่ใช้สายพานเป็นชุดขับเคลื่อนก็เช่นกัน ดังนั้น หากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องคิกดาวน์บ่อยๆ แถมยังช่วยรักษาเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันขึ้นด้วย

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

8 + 1 =

Back To Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า