ถ้าคิดว่าเห่ าเก่งกว่าหม า ก็จงเห่ าต่อไป
คนเรามีก ลไ ก โ ต้ ตอบอัตโนมัติอยู่ในร่างนี้
ร้อน เปิดพัดลม หนาว หาเสื้อมาใส่
หิ ว ก็กิน
เหนื่อ ย ก็พัก
หนั ก ก็วาง
แบบนี้ไ ม่เป็นไร มันช่วยให้เราสบายตัว อยู่ต่อไปได้
แต่มันดันมีกลไกโ ต้ ตอบความโก ร ธ
ความเจ็ บใ จอยู่ในเราด้วยนี่ซิ
ด่ ามา มี ด่ า กลับ
เจอคำพูดบา ดใ จ พ่นกลับไปสามเท่า
แบบนี้ มันสา สมใ จจริงหรือ ทำแล้วสบายใ จมากไหม
อาจมีคนตอบว่า ใช่ มันสะใ จ แค้ นต้องชำระ
แล้วพอเหตุการณ์ผ่านไป
มีอะไรดีขึ้นบ้างไหม
ไ ม่ต้องตอบก็ได้
ของแบบนี้ในใ จ ลึ ก ๆก็รู้ว่า ไ ม่ มีอะไรดีขึ้น
ตรงกันข้าม เ สี ย ประโยชน์ เสี ย เวลา เสี ย ความรู้สึก
ความสัมพันธ์เล ว ลง ต่อไ ม่ติด
กลไกโต้ตอบนี้มันพัฒนาได้นะ ด้วยตัวเอง
ต้องยอมรับก่อนว่า ห้า ม หมาเห่ า ไ ม่ได้
และหมาเห่ า อย่ า เห่ าตอบ
ไ ม่มีทางที่คนจะเห่ าเก่งกว่าหมาไปได้
ก่อนพูด ให้อึ้งๆ ไปสองสามวินาที
อันนี้พูดง่าย ทำยาก ปากมันเร็วกว่าใ จเสมอ ตั้งตัวไ ม่ค่อยจะทัน ฝึกสูดหา ย ใ จลึกๆ เข้าไว้ ถ้ามีบุญ คำพูดที่ออกมาจะเป็นสิ่งที่เรียกกันว่า “คิดก่อนพูด”
มุ่งไปที่ปั ญ หาให้มากกว่าใครเป็นคนพูด
การพูดกันนั้นไม่ได้เกิดขึ้นโดยคนเดียวแน่ๆ มันต้องมีเห ตุ มีปั ญ ห ามาพูดกันทั้งสองฝ่ายหรือหลายฝ่าย โฟกัสที่ประเด็น ปั ญ หา จะจบสนทนาได้สวยกว่ามาก แต่ถ้าฝั ง ใ จไปกับคำพูดที่เราไ ม่ พ อใ จ มันจะลืมปั ญ ห า มันจะลากไปเรื่องทัศนคติที่ไ ม่ชอบ ใ จ เรื่องมันจะยาวไ ร้ สาระไปเลย ความคิดเห็นของคนไ ม่ สำคัญเท่าความจริ งของปั ญ ห า
นึกเสมอว่า เราเป็นคนดี เป็นบัณฑิต
ต้องมีจิตน้อมไปในทางที่เป็นกุศล คนดีมีกาละเทศะ ใส่ใ จความรู้สึกคนอื่น คนดีจะไ ม่ทำร้า ย คนอื่นด้วยคำพูดขา ด สติ แผ่เมตตาไป ใ จเป็นบุญนะ พอใ จเป็นบุญเราก็ไ ม่พูดด้วย อ กุ ศล จิ ต
ถ้าไ ม่ได้จริงๆ ก็ท่องไว้ “ไ ม่ต้องพูดทุกอย่างที่คิด” ไ ม่พูด ก็ไ ม่มีใครว่า โ ง่ นะ
มีคนว่าไว้
อยากไปข้างหน้า อย่ าเสี ยเวลา
“หยุดเ ต ะปากหมา” ระหว่างทาง
เครดิต Business link เชื่อมช่อง