8 อาการวัยทอง พร้อมวิธีรักษา
วัยทอง คืออะไร
นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า “สตรีวัยทอง” หรือสตรีวัยหมดประจำเดือน หรือวัยหมดระดู หมายถึง สตรีที่มีระดับฮอร์โม นเอสโตรเจนลดลงจากการทำงานของรังไข่ที่ลดลง
ช่วงวัย ของวัยทอง
ช่วงอายุที่พบได้บ่อย คือ 50-59 ปี อย่างไรก็ตาม ความแ ตกต่างทางร่างกายของผู้หญิงทำให้ภาวะหมดประจำเดือนของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยผู้หญิงประมาณ 15-20 % จะไม่มีอาการไม่พึงประสงค์ใดๆ นอกจากประจำเดือนหมดไปเท่านั้น
สาเหตุของการเกิดอาการวัยทอง
นายแพทย์จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการโรงพย าบาลราชวิถี กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากจะเกิดตามธรรมชาติแล้ว อาการเจ็ บป่ว ยหรือความผิ ดปกติของรังไข่ก็อาจส่งผลต่อการขาดประจำเดือน รวมไปถึงการทำเ คมีบำบั ด (Chemotherapy) ที่ใช้ในผู้ป่ว ยโร คมะเ ร็ง เพราะนอกจากการรักษาจะส่งผลต่อเซ ลล์มะเ ร็งแล้ว ยังส่งผลต่อเซล ล์ต่างๆ ของร่างกายที่มีการเจริญเติบโตด้วย
กรณีเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนก่อนกำหนด (อายุน้อยกว่า 40 ปี) อาจเกิดจากหลายสาเห ตุ ได้แก่ ประวัติคนในครอบครัวเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนเร็ว โร คภูมิต้ านทานเนื้ อเ ยื่อตนเอง ความผิ ดปกติของโครโมโซม X และการสู บบุ หรี่ เป็นต้น
อาการวัยทองที่พบได้
นอกเหนือจากการสิ้นสุดของประจำเดือนแล้ว ยังมีการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทย าอีกหลายประการ เช่น
-ร้อนวูบวาบ
-เวียนศีรษะ อ่อนเพลีย
-อารมณ์แปรปรวน
-ช่องคล อดแห้ง และตี บแค บ
-ปัสสาวะบ่อย หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่
-นอนน้อย นอนไม่ค่อยหลับ
-อ้วนขึ้น เพราะระบบเผ าผลา ญร่างกายทำงานได้น้อยลง
-อาจส่งผลในระยะยาว เช่น โร คกระดู กพรุน
สตรีทุกคนต้องเข้าสู่ช่วงวัยทอง การดูแลและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในช่วงวัยนี้เป็นสิ่งที่สำคัญ โดยสามารถรับมือง่ายๆ ได้ดังนี้
-รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารที่มีปริมาณแคลเซียมสูงและไขมันต่ำ
-งดสู บบุ หรี่ ลดการดื่มแ อลกอฮ อล์ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนสูง
-ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาที
-พักผ่อนให้เพียงพอ
-ฝึกการควบคุมอารมณ์ให้มีความคิดในเชิงบวก และตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอปีละ 1 ครั้ง
-หากรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงในช่วงวัยทองมีผลกระทบกับคุณภาพชีวิต ควรไปพบแพทย์เพื่อปรึกษา พูดคุย และรับการรักษาต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูล :กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข,โรงพย าบาลราชวิถี