7 ข้อสังเกต บอกว่า คุณกับเขาเกิดมาเป็นเนื้อคู่กัน

7 ข้อสังเกต บอกว่า คุณกับเขาเกิดมาเป็นเนื้อคู่กัน

1. แม้พบเจอกันครั้งแรก คุณและเขากลับสนิทสนมกันได้เร็ว

เพราะเกิดจากความรู้สึกภายในที่ผูกพันกันมานานทำให้คุณทั้งคู่รู้สึกสุขใจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ

2. คุณและเขามักมีความคิดที่ค้ลายกัน ประหนึ่งว่าเป็นคน ๆ เดียวกัน

มีใจตรงกันอย่ างบอกไม่ถูกในลักษณะที่มีความคิดคล้ายกัน ใช่การพย าย ามเลียนแบบจะเป็นเหมือนอีกคน

3. คุณและเขาเข้ากันได้ดี เป็นส่วนที่เติมเต็มซึ่งกันและกัน เปรียบเสมือนแจกันกับดอกไม้เช่น

คนหนึ่งมักใจร้อนเป็นฟืนไฟ แต่อีกคนกลับกลายเป็นคนใจเย็นนิ่งดั่งสายน้ำ

4. แม้คุณและเขาจะมีปากเสียงหรือทะเลาะกันคราวใด ก็ไม่มีทางทิ้งกันไป

ไหนพ้นสุดท้ายแล้วก็ปรับความคิดให้เข้าใจกันได้ดีดังเดิม

5. ระยะทางไม่สามารถทำอะไรความรักของคุณทั้งคู่ได้ หรือแม้มีอุปสรรคใดมาขวาง

กั้นคุณและเขาก็อุ่นใจทุกครั้งที่นึกถึงกัน ราวกับว่าจิตใจผูกพันกันมากกว่าร่างกาย

6. คุณและเขามีความสุขมากกว่าความทุกข์ที่ร่วมกัน บางครั้งไม่ต้องพูด

เปร่งวาจาก็สามารถรู้ได้ว่าอีกฝ่ายคิดอย่ างไร เป็นสิ่งที่บอกได้ว่าคุณและเขาใจตรงกันมานานแล้ว

7. คุณและเขามักจะชวนกันเข้าวัดทำบุญ หรือทำสิ่งดี ๆ ร่วมกันเป็นผลบุญแต่ปางก่อนที่ทำให้ได้ย้อนกลับมาพบกันอีกครั้ง

แต่หากความรักครั้งนี้ของคุณ อาจจะไม่ใช้เนื้อคู่กันมาก่อนในชาติที่แล้ว ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือสิ่งที่จะมาขวางความรักของคุณได้ขอ

ให้อยู่ด้วยกันอย่ างเข้าอกเข้าใจ และหมั่นทำความดีอยู่คู่กันไปแบบนี้ ก็ถือเป็นความรักที่ดีแล้ว

ศีลเสมอกัน วิธีดูเนื้อคู่ ที่พระพุทธองค์ทรงตรัสไว้การเลือกเนื้อคู่จึงแยกออกเป็น 4 ข้อหลัก

1. ศรัทธาเสมอกัน

หากเรามีความเชื่อและศรัทธาในสิ่งเดียวกัน เราก็จะมีมุมมองในเรื่องเดียวกัน ข้อดีหลัก ๆ ก็คือ เราจะไม่ทะเลาะเบาะแว้งและอย าก

เอาชนะคะคานกันและกัน ไม่ถกเถียงเพื่อให้ความเชื่อของเราชนะอีกฝ่าย ทำให้ครองคู่กันอย่ างอยู่เย็นเป็นสุข นอกจากเรื่องศรัทธา

เสมอกัน อีกอย่ างที่สำคัญ คือความชอบและรสนิยม หากตรงกันแล้ว ก็จะลดความขัดแย้ง ลดเรื่องที่ต้องทะเลาะในแต่ละวันไปได้

พระพุทธองค์ได้ชี้ทางสว่างให้กับคนที่จะมาเป็นคู่ครองกัน สองคนนั้นควรต้องมีความเชื่อเสมอกันและไปในทิศทางเดียวกัน

เช่น เชื่อในหลักศาสนาเดียวกัน เพราะถ้าไม่เชื่ออะไรที่เหมือนกัน ก็จะอยู่ด้วยกันแบบชีวิตไม่สงบสุขแน่นอน

ทั้งนี้ หากเป็นเนื้อคู่ประเภทคู่เ ว รคู่ก ร ร มกันแล้ว ทั้งคู่มาที่มาพบกันก็เพราะมีก ร ร มลิขิต วิบากก ร ร มได้กำหนดไว้แล้ว มีเป้า

หมายให้คนทั้งคู่มาชดใช้วิบากก ร ร มของคนทั้งคู่ที่มีต่อกันให้หมดสิ้นกันไป

ซึ่งจะนานหรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับวิบากก ร ร มนั้นจะหนักหรือจะเบา เมื่อหมดแล้วก็ต้องแยกย้ายกันไป หรือคู่ที่เลิกรากัน เปลี่ยนคู่บ่อย ๆก็

เป็นเพราะอาจจะเป็นเนื้อคู่กันในปางก่อนจริง มาเกื้อกูลกันบ้างในชาติปัจจุบัน

จริงแต่เมื่อบุญที่ทำร่วมกันมันมีน้อย ใช้บุญกันไปจนหมดแล้วไม่มีทำเพิ่ม ถึงเวลาก็ต้องแยกย้ายกันไป

2. มีศีลเสมอกัน

ศีลเสมอกัน เป็นสิ่งที่คนพูดถึงกันบ่อย ๆ เวลาจะมองหาคู่ครองต้องให้มีศีลเสมอกัน อธิบายง่าย ๆ คือ คนที่รักษาศีล

รู้จักยับยั้งชั่งใจพากันไปสู่สิ่งที่ดีงาม ก็จะทำให้ชีวิตราบรื่น แต่หากสองคนนั้นมีศีลไม่เสมอกัน ก็เป็นเรื่องย ากที่จะอยู่ด้วยกันได้

ในเรื่องศีลเสมอกัน ดูง่าย ๆ คนที่ชอบทำบุญ รักษาศีล ถ้าเจอคู่ครองที่ไม่รักษาศีล หรือศีลน้อยกว่า เช่น ชอบการพนัน ตกเย็นคว้า

ขวดเหล้า หรือทำอาชีพที่ไปฆ่ าสัตว์ตัดชีวิต ก็ย่อมไม่ฟังในสิ่งที่เราพูด เราตักเตือน ทำให้มีเรื่องขัดข้องหมองใจกันง่ายหากเราเจอ

คู่ที่มีศีลเสมอกันพากันเข้าวัด ทำบุญ ทำแต่ความดี ชีวิตย่อมเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน ไม่มีใครฉุดดึงชีวิตอีกฝ่ายให้ต่ำลง

3. จาคะเสมอกัน

คำว่า จาคะ มีความหมายว่า การสละสิ่งของและความสุขส่วนตัวเพื่อประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น หมายรวมถึงการสละละทิ้งกิเลสละความ

โลภ ความเห็นแก่ตัว ความตระหนี่ ความใจแคบ และการเลิกละนิสัยตลอดถึงความประพฤติที่ไม่ดี ที่ทำให้เกิดความเสียหาย

จะเห็นได้ว่า คนที่มีจาคะย่อมเสียสละเพื่อส่วนรวมได้ มีความเอื้ออาทรต่อความทุกข์ย าก คอยให้ความช่วยเหลือผู้อื่น

ไม่เห็นแก่ตัวหากคู่ของเรามีจาคะไม่เสมอกัน คงเป็นเรื่องย ากที่จะทำความเข้าใจว่าเพราะอะไรถึงต้องไปช่วยเหลือคนอื่น

คงจะดีไม่น้อย หากเราเลือกครองคู่กับคนที่มีจาคะเสมอกัน เป็นคนใจกว้าง ชอบทำบุญ

สามารถช่วยคนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนได้เหมือน ๆ กัน เมื่อเรารักจะเป็นผู้ให้ก็จะอิ่มอกอิ่มใจที่ได้ให้ แล้วยังสัมผัสถึงความสุขใจ

เมื่อมองเห็นผู้รับยิ้มแย้ม พอใจ ทำให้ความสุขของผู้ให้ทวีเพิ่มขึ้นอีกด้วย

4. ปัญญาเสมอกัน

ปัญญาเสมอกันคืออย่ างไร พระราชพรหมย านหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ

พระอริยสงฆ์องค์หนึ่งของเราครั้งหนึ่งท่านได้ตอบคำถามให้กับลูกศิษย์ เมื่อลูกศิษย์คนนั้นถามท่านว่า ปัญญาคืออะไร

ท่านจึงได้เมตตาตอบไปว่า ปัญญา ความหมายทั่วไปแปลว่าความรู้ที่เกิดขึ้นจากการพินิจพิจารณาแปลว่าความเฉลียวฉลาดก็ได้

มิใช่รู้อย่ างเดียวต้องนำเอาความรู้ที่ได้นั้นมาพิจารณาด้วย มิใช่ฉลาดอย่ างเดียว

ต้องมีเฉลียวใจด้วยพระพุทธองค์ตรัสไว้ในเรื่องของการที่จะมาเป็นคู่ครองกัน

ต้องมีปัญญาเสมอกัน ถ้าใกล้เคียงกันมากก็จะยิ่งมีความสุข ความเจริญ

ทำอะไรก็ประสบผลสำเร็จ เนื่องด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญที่ทั้งคู่มีได้เกื้อหนุนกันและกันไม่เพียงแต่ศีลเสมอกัน

การมีศรัทธาเสมอกัน จาคะเสมอกัน และปัญญาเสมอกัน ก็จะช่วยนำพาให้คู่ครองคิดเห็นในเรื่องเดียวกัน

มีความเชื่อในแบบเดียวกัน ครองคู่กันอย่ างมีความสุข ย ากต่อการทะเลาะเบาะแว้งวิธีดูเนื้อคู่และการเลือกคู่ครองที่เหมาะสม

จึงจำเป็นต้องอาศัยทั้ง 4 ข้อนี้เป็นสำคัญ

ที่มา : bangpunsara

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

+ 19 = 23

Back To Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า