อาหาร 5 อย่าง ช่ว ยลดน้ำตาลสะสมในร่างกาย
“น้ำตาลในเลือ ดสะสม” เป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะนำไปสู่โร คอันต รายได้หลายโรค เช่น เบ าหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลื อดสูง โ รคหัวใจและหลอดเลือ ด เป็นต้น
นพ.นันทพล พงศ์รัตนามาน อาจารย์ที่ปรึกษา แผนกศัลยศาสตร์หลอดเ ลือด ร.พ.พระมงกุฎเกล้า หรือ หมอท็อป แนะนำอาหารที่กระตุ้ นอินซูลินในร่างกายได้น้อยที่สุด ช่วยลดความเสี่ ยงภาวะดื้ออินซูลิน ที่เป็นปัจจัยสำคัญของโร คเบ าหวาน ช่วยลดระดับน้ำตาลสะสมในเลื อด ลดความเ สี่ยงโร คอันต รายต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว ดังนี้
อาหารที่มีแป้งต่ำ
อาหารที่มีกากใยอาหารสูง
อาหารที่มีไขมันดีสูง
อาหารที่มีโปรตี นที่ดีจากธรรมชาติ
ประเภทของอาหารที่แนะนำให้รับประทานมากขึ้น หรือทดแทนอาหารเดิมที่เคยรับประทาน ได้แก่
ปลาแซลมอน
ปลาแซลมอน เป็นเ นื้อสัตว์ที่มีโปรตี นที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงไขมันดีจากธรรมชาติด้วย นอกจากนี้ยังมีส ารอาหารที่ดีต่อร่างกายอย่าง โอเมก้า-3 เหล็ก โพแทสเซียม ซิงค์ และ แคลเซียม โดยที่มีน้ำตาลต่ำ ไม่มีแป้ง แต่ถ้าสามารถเลือกได้ ควรเลือกเป็นแซลมอนธรรมชาติมากกว่าแซลมอนเลี้ยง เพราะจะให้พลังงาน (แคลอรี่) ต่ำกว่า ในปริมาณเนื้ อแซลมอนที่เท่ากัน
อะโวคาโด
อะโวคาโด จัดว่าเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางส ารอาหารสูง ให้พลังงานที่ดีต่อร่างกาย มีไขมันดี แร่ธาตุต่างๆ เช่น โพแทสเซียม แมกนีเซียม และมีโปรตี นด้วย คาร์โบไฮเดรตต่ำ รวมไปถึงกากใยอาหารสูงที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบขับถ่าย ทำให้ร่างกายสดชื่น และยังช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น แต่ทั้งนี้อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่ให้พลังงาน จึงไม่ควรรับประทานเกินวันละ 1 ลูกกลาง
ผักที่มีแป้งต่ำ
การรับประทานผักที่มีปริมาณแป้ง หรือคาร์โบไฮเดรตต่ำ จะช่วยลดน้ำตาลในเลื อดได้อย่างรวดเร็ว กลุ่มผักที่มีแป้งต่ำ ได้แก่ ผักใบเขียว เช่น ผักกาด คะน้า ผักบุ้ง กระเฉด รวมถึงผักอื่นๆ เช่น แตงกวา มะเขือม่วง กะหล่ำปลี กะหล่ำดอก
ผลไม้ที่มีแป้งและน้ำตาลต่ำ
ผลไม้ที่มีน้ำตาลต่ำ ช่วยมอบความสดชื่นให้กับร่างกาย และยังช่วยลดน้ำตาลในเลือ ดได้ด้วย เช่น ผลไม้ตระกูลเบอร์รี มะพร้าว มะนาว เลมอน แตงโม แคนตาลูป สตรอว์เบอร์รี ส้ม กีวี่ รับประทานเพียงวันละ 1 กำปั้นก็เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในแต่ละวันได้แล้ว
น้ำมันมะกอก
การรับประทานน้ำมันมะกอกให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย คือการนำน้ำมันมะกอกไปประกอบอาหารต่างๆ แทนน้ำมันเดิมที่ใช้อยู่อย่างเหมาะสม เช่น นำไปทำเป็นส่วนผสมของซอส ซุป หรือน้ำสลัด มากกว่าจะกินน้ำมันมะกอกเป็นช้อนๆ อย่างตั้งใจ น้ำมันมะกอกช่วยควบคุมน้ำหนัก ความดันโลหิตสูง ลดน้ำตาลในเลือ ด บำรุงข้อต่อ เซลล์ส มอง ต้า นการอักเส บต่างๆ ในร่างกาย รวมไปถึงระบบภูมิคุ้มกันโร ค ผิวพรรณและเส้นผมสุขภาพดีขึ้นได้ด้วย โดยปริมาณที่เหมาะสมคือ 2 ช้อนโต๊ะต่อวัน และควรเลือกเป็นน้ำมันมะกอกชนิด Extra Virgin Olive Oil
ขอขอบคุณข้อมูล :นพ.นันทพล พงศ์รัตนามาน อาจารย์ที่ปรึกษา แผนกศัลยศาสตร์หลอดเลื อด ร.พ.พระมงกุฎเกล้า หรือ หมอท็อป
