องค์การอนามัยโลกเตื อน เชื้ อร้า ยแ รงกว่าโควิ ด
ผู้เชี่ยวชาญชี้ ร้ ายแร งยิ่งกว่าโควิ ด ยังไม่มีย ารักษา ไม่มีวัคซีน ใครติดเชื้ อ มีโอกาสต า ย 75%
ทางการอินเดียยืนยัน เริ่มพบการระบา ดของไวรั สหายาก ที่มีชื่อว่า นิปาห์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในแวดวงสาธารณสุขว่า เป็นเชื้ อที่มีความรุนแ รงมากกว่าโควิ ด “หลายเท่าตัว”
ขณะนี้ พบเ ด็กชายวัย 12 ปี ติดเชื้ อไวรั สนิปาห์ เ สียชีวิตแล้ว 1 รายที่เมืองโกชิโกเด ในรัฐเกรละ ทางภาคใต้ของอินเดีย เมื่อวันที่ 7 กันย ายน โดยผลตรวจจากห้องแล็บยืนยันแล้วว่า เขาติดเ ชื้อไวรั สนิปาห์ ไม่ใช่เชื้ อโควิ ดที่กำลังแพ ร่ระบ าดอยู่ในพื้นที่
นอกจากเ ด็กชายวัย 12 ปีที่เสี ยชีวิตแล้ว ล่าสุดพบผู้ติดเชื้ อไวรั สนิปาห์ในพื้นที่อีกอย่างน้อย 11 คนที่เริ่มแสดงอาการแล้ว และอีกมากกว่า 100 คน ยังไม่แสดงอาการ แต่มีประวัติการสัมผัสใกล้ชิดกับเ ด็กคนที่ต า ย
องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ไวรั สนิปาห์เป็นไวรั สที่มีความร้ ายแร งอย่างมาก เพราะมีโอกาสสูงถึง 75 เปอร์เซ็นต์ที่ผู้ติดเชื้ อจะเสียชีวิต และนี่ทำให้ไวรั สนิปาห์ เป็นเชื้ อมร ณะที่น่ากลั วยิ่งกว่าเ ชื้อโควิ ด และเชื้ อในตระกูลโคโรนาไวรั สทุกสายพัน ธุ์บนโลก
ทั้งนี้ ไวรั ส นิปาห์ ถูกพบครั้งแรกในโลกที่ประเทศสิงคโปร์ และบางส่วนของมาเลเซีย เมื่อปี ค.ศ.1999 ซึ่งทำให้มีผู้ติดเชื้ อในครั้งนั้นเกือบ 300 คน และทำให้มีผู้เสี ยชีวิตในสิงคโปร์และมาเลเซียไปมากกว่า 100 ราย
โดยผู้เชี่ยวชาญเชื่ อว่า ค้างคาวผลไม้ และหมู คือสัตว์ที่แ พร่เ ชื้อชนิดนี้มาสู่มนุษย์ในตอนแรก ก่อนที่ไวรั สที่มีต้นกำเนิดจากสัตว์ชนิดนี้ จะ “พัฒนาตัวเอง” กลายเป็นไวรั สที่ระบ าด “จากคนสู่คน” ในเวลาต่อมา
อาการเบื้องต้นของคนที่ติดเชื้ อ ในระยะแรกจะเริ่มด้วยการมีไข้ มีอาการไอ เจ็ บคอ จากนั้นจะเริ่มหายใจไม่ออก และเชื้ อนิปาห์จะเริ่มลามเข้าสู่สมอ ง ทำให้เกิดการติดเชื้ อในสม องอย่างรุนแ รง
องค์การอนามัยโลก ยืนยันว่า จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีวัคซีนและไม่มีย า ตัวใดที่สามารถรักษาผู้ติดเชื้ อไวรั สนิปาห์ได้ สิ่งเดียวที่แพทย์สามารถทำได้คือการรักษาแบบตามอาการ และประคองอาการไปเรื่อยๆ เท่านั้น
โดยผู้ติดเชื้ อนิปาห์รายใดที่รอดชีวิต จะต้องกลายเป็นผู้ที่มีอาการผิดปกติทางสม อง และมีอาการสั่น ชักกระตุก รวมถึงมีปัญหาในการเคลื่อนไหวร่างกาย ต่อเนื่องไปตลอดชีวิตที่เหลือ