ผอ.สนามบินอู่ตะเภา เผ ยทหา รอียิป ต์หนีออกมาเอง
เมื่อวันที่ 13 ก.ค. พล.ร.ท.กฤชพล เรียงเล็กจำนงค์ ผู้อำนวยการการท่าอากาศยานอู่ตะเภา กล่าวถึงกรณีทห ารอียิ ปต์เข้าพักในโรงแรมในจังหวัดระยองระหว่างเครื่องบินแวะพักเติมน้ำมั นสนามบินอู่ตะเภา ตรวจพบการติดเ ชื้อโ ควิ ด ว่า
ขั้นตอนการปฏิบัติสำหรับผู้โดยสา รที่เดินทางเข้ามาในท่าอากาศยานอู่ตะเภาต้องปฏิบัติการตามมาตรการที่ ศบค.กำหนด โดยการท่าอากาศยานอู่ตะเภาจะมีศูนย์ปฏิบัติการที่แต่งตั้งขึ้นโดย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามคำสั่งของ ศบค. ที่นายกรัฐมนตรีลงนามไปเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดในการออกกฎ กติกา การบริหารจัดการต่างๆ
โดยอู่ตะเภาจะมีด่านควบคุมโร คติดต่อระหว่างประเทศ มีคณะทำงาน ที่มีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขมาปฏิบัติงาน ร่วมกับทาง ตม.ทำการคั ดกร องโร คหรือส อบส วนโร ค PUI หากไ ม่พบผู้ต้องสงสัย หรือ ไ ม่มีผู้ใดพฤติการณ์ที่เสี่ ยงต่อการติดต่อของโร ค หรือไ ม่พบภาวะผิ ดปกติใดๆ ขั้นตอนก็จบลง และส่งต่อไปเข้าที่พัก ส่วนที่รับผิ ดชอบคือสาธารณสุขจังหวัดระยอง เพื่อรอการประเมินการคั ดกร องทาง State Quarantine ก็จะรับไป
พล.ร.ท.กฤชพล กล่าวว่า คณะดังกล่าวมีทั้งหมด 31 คน คาดว่า มีเพียงหนึ่งคนในคณะนั้นหนีออกมาข้างนอกระหว่างที่เข้าพักแต่ข้อมูลที่ถูกต้องขอให้ตรวจสอบกับทาง ศบค.อีกครั้ง เมื่อถามว่า คาดว่าคนที่หนีออกมาคือคนที่ตรวจพบเ ชื้อหรือไ ม่ พล.ร.ท.กฤชพล กล่าวว่า ตนไ ม่ทราบ คงต้องถามรายละเอี ยดจากทาง ศบค.ทั้งหมด
ทั้งนี้ ยืนยันว่าขั้นตอนการตรวจสนามบินไ ม่พบความผิ ดปกติ ซึ่งการตรวจสอบก็ทำด้านนอกเทอร์มินอล ไ ม่ได้เข้ามาปะปนกับในอาคารผู้โดยสา ร เพราะเป็นลักษณะของ State aircraft มีการแจ้งเข้า-ออก ในประเทศล่วงหน้าและต้องรับอนุญาตในเรื่องแผนการบิน และตารางการอยู่ในประเทศ
ซึ่งมีหน่วยงานรับผิ ดชอบอยู่แล้วที่ประเทศต้นทางจะต้องประสานมาทางกระทรวงการต่างประเทศ สถานทูตในประเทศไทย สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เป็นขั้นตอนทางการทูต หรือ diplomatic clearance ซึ่งการท่าอากาศยานฯ ไ ม่มีอำนาจไปยั บยั้ ง แต่มีอำนาจในการตรวจสอบตามมาตรการที่กำหนดเพื่อควบคุมการแ พร่กระจา ยของเ ชื้อไ วรั ส
ที่มา ข่าวส ด