กินผัก 5 ชนิดนี้ ผักพิชิตไขมัน ช่วยลด ไข มั นที่พอกในร่ าง กายได้
ในการรักษาแผนปัจจุบันเหมือนกับการใช้ยาสมุนไพรในการรักษา ตรงที่ยาไม่ได้มีผลลดไขมันได้ 100% จำเป็นต้องอาศัยการควบคุมอาหารร่วมด้วยเสมอเป็นอันดับแรก คือลดการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ของมันของทอด กะทิ เครื่องในสัตว์ หรือแม้กระทั่งขนมจุกจิก น้ำอัดลม เครื่องดื่มน้ำผลไม้ กาแฟ
หากมีการใส่น้ำตาลปรุงรสในปริมาณมาก ก็จะเพิ่มพลังงานให้กับสิ่งที่เรารับประทาน ซึ่งหากร่างกายเรามี
การใช้พลังงานน้อยกว่าพลังงานจากอาหารที่รับประทานเข้าไป ร่างกายก็จะเก็บสะสมในรูปไขมันได้ และหมั่นอออกกำลังกาย ครั้งละ 30-40 นาที อย่างน้อยสัปดาห์ละ 4 วัน และในคนที่สูบบุหรี่
พบว่าหากหยุดสูบบุหรี่ จะทำให้ไขมันชนิดดีไม่ลดต่ำลงได้ และยังลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหลอดเลือดและหัวใจอีกด้วย ในส่วนของสมุนไพรไทยที่งานวิจัยสนับสนุนยืนยันว่า มีส่วนช่วยในการลดไขมันได้จริง มีดังนี้
ขิง
มีการศึกษาหนึ่งของต่างประเทศพบว่า การรับประทานขิงแคปซูลวันละ 3 กรัม ต่อวัน โดยแบ่งให้วันละ 3 เวลา เป็นเวลา 45 วัน สามารถลดระดับไขมันคอเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ นอกจากนี้ ขิงยังมีป้องกันการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือด ป้องกันการอุดตันของหลอดเลือดได้อีกด้วย
กระเทียม
นอกจากจะลดความดันได้แล้ว ยังมีผลลดไขมันในเลือดได้ โดยมีการศึกษาพบว่า เพียงคุณรับประทานกระเทียมวันละ 1-2 กลีบ หรือรับประทานในรูปแบบผงกระเทียม 600-900 มิลลิกรัม ต่อกรัม เป็นเวลา 2
เดือนขึ้นไป จะมีผลลดไขมันคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ โดยมีการศึกษาหนึ่งพบว่าหากรับประทานเป็นเวลา 16 สัปดาห์ สามารถลดไขมันคอเลสเตอรอลได้ 12% ลดไขมันไตรกลีเซอไรด์ได้ 17%
กระเจี๊ยบแดง
มีสารออกฤทธิ์สำคัญคือ แอนโทไซยานิน ซึ่งพบว่ามีผลลดระดับไขมันชนิดไตรกลีเซอไรด์ได้ดีมาก ลดไขมันชนิดร้าย (LDL) ลดคอเลสเตอรอล อีกทั้งยังมีผลช่วยเพิ่มระดับไขมันดี (HDL) โดยเห็นผลเมื่อดื่มชาชงกระเจี๊ยบวันละ 2 เวลา เป็นเวลาติดต่อกันอย่างน้อย 1 เดือน
ตรีผลา
ตำรับสมุนไพรที่ประกอบขึ้นด้วยผลไม้สามอย่างคือ สมอไทย สมอพิเภก และมะขามป้อม มีผลลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ได้ โดยอาจรับประทานอย่างน้อยคืนละ 1 แก้วต่อเนื่องทุกคืน นอกจากจะลดไขมันในเลือดได้แล้ว ตรีผลายังมีส่วนช่วยในการรักษาภาวะไขมันพอกตับอีกด้วย (fatty liver)
ดอกคำฝอย
มีสารสีเหลืองส้ม คนโบราณใช้ในการแต่งสีอาหาร โดยการนำกลีบดอกมาแช่น้ำร้อน ซึ่งสารนั้นมีชื่อว่า Carthamin และ Sufflower yellow อีกทั้งในเมล็ดดอกคำฝอยยังมีน้ำมันระเหยยาก เรียกว่าน้ำมันเมล็ดดอกคำฝอย มีส่วนประกอบของกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวหลายชนิด มีผลลดระดับคอเลสเตอรอลและไขมันตัวร้าย (LDL)
และป้องกันการอุดตันของไขมันในเลือด รวมทั้งมีผลในการป้องกันโรคหัวใจได้ด้วย โดยอาจรับประทานในรูปแบบชาชงวันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 ซอง ตอนเย็นหรือก่อนนอน นอกจากนี้ ยังพบว่าการรับประทานหอม
เล็ก หอมใหญ่เป็นประจำ ก็จะมีส่วนช่วยในการควบคุมระดับไขมันในเลือดได้ โดยรับประทานเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 หัว
แหล่งที่มา : honghongworld.com