อ ย่ า มองข้าม 7 สัญญาณ ไ ฟ

7 สัญญาณ ไ ฟ บนหน้าปัดรถ ที่ไม่ควรมองข้าม

บนหน้าปัดรถ จะมีสัญญาณต่างๆไว้คอยแจ้ง เ ตื อ น ให้เราทราบ หากเกิดเหตุการณ์ หรือสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นภายในรถของเรา แต่หลายคนก็มักจะมองข้าม บางคนอาจจะสนใจแค่เข็มวัดความเร็วกับน้ำมันเท่านั้น

ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ควรปฏิบัติ เพราะยังมีสัญญาณอีกหลายแบบที่เราควรจะรู้ไว้ด้วยเช่นกัน เพื่อความปลอดภัยในการขับขี่มากยิ่งขึ้น วันนี้เราจึงได้รวบรวม 7 สัญญาณไฟหน้าปัดรถยนต์เบื้องต้นที่สำคัญ ที่เราควรรู้ไว้

1. สัญญาณแบตเตอรี่

หากที่หน้าปัดเครื่องยนต์มี ไ ฟ แจ้งเ ตื อ น เป็นรูป แบตเตอรี่ นั่นเป็นสัญญาณที่เราไม่ควรชะล่าใจ และหลายคนก็ยังเข้าใจผิดว่า หมายถึง ให้เราทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ได้แล้ว ซึ่งจริงๆแล้วมันเป็นการแสดงถึง การทำงานของระบบไดชาร์จผิดปกติ และหากเรายังฝืนขับต่อ จะทำให้ระบบไ ฟ ฟ้าในรถยนต์จะค่อยๆอ่อนลง ไ ฟ หน้าค่อยๆหรี่และเครื่องยนต์จะดับในที่สุด หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ สามารถเป็นไปได้ทั้ง 2 กรณี คือ ไดชาร์จเสีย หรือ สายพานไดชาร์จขาด ทางที่ดีควรหมั่นตรวจสภาพของไดชาร์จ สายพาน ให้อยู่ในสภาพปกติทุกครั้งก่อนเดินทาง

2. สัญญาณ ไ ฟ รูปเครื่องยนต์

หากคุณเห็นหน้าปัดรถยนต์มีสัญญาณ รูปเครื่องยนต์ นั่นเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่า ตัวเซ็นเซอร์ที่ถูกติดตั้งอยู่ในเครื่องยนต์ ตรวจจับได้ถึงความ ผิ ด ปกติบางอย่างภายในเครื่อยนต์ อาจจะเกิดจากการที่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ของรถ เกิดการ ช๊ อ ต ที่แผงวงจร

อีกอย่างที่เป็นไปได้ก็อาจจะเป็นเพราะตัวเซ็นเซอร์นั้นมีปัญหาเอง และอุปกรณ์ที่อาจเป็น ส า เ ห ตุ ทำให้ ไ ฟ รูปเครื่องยนต์ขึ้น ได้แก่ เซ็นเซอร์วัดออกซิเจนระบบไอเสียมี ปั ญ ห า, ฝาถังน้ำมันหลวม, หัวเทียนหรือสายหัวเทียนมีปัญหา และอาจจะมีสาเหตุอื่นๆอีก ไ ฟ เ ตื อ น รูปเครื่องยนต์ อาจไม่ได้แสดงถึงความ เ สี ย หา ย รุน แ รง ของรถ แต่ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ ให้รีบไปตรวจเช็กหาความ ผิ ด ป ก ติ และรีบแก้ไขจะดีที่สุด

3. สัญญาณไฟเครื่องหมาย ต ก ใจกลางวงกลม

โดยปกติแล้ว รูปเครื่องหมาย ต ก ใ จ แบบนี้ จะเป็นการแจ้งเมื่อน้ำมันเบรกลดลงต่ำกว่าระดับปกติ แต่จะมีรถยนต์บางรุ่นที่ระบบจะแยกกันระหว่างระบบเบรก กับเบรกมือไว้อย่างชัดเจน

แต่ในรุ่นที่ไม่ได้แยก หากมีเครื่องหมายนี้ปรากฏขึ้นมาให้เห็น คือการแสดงการดึงเบรกมือ หรือลดเบรกมือลงไม่สุด ในกรณีที่ลดลงสุดแล้วยังไม่หาย อาจะต้องตรวจเช็กระบบเบรกโดยเร็วที่สุด เพราหากเบรกมีปัญหาแล้วยังฝืนขับรถต่อ จะทำให้เกิด อุ บั ติ เ ห ตุ ได้ง่าย

4. สัญญาณรูปตะเกียงน้ำมันมีน้ำหยด

หากปรากฏสัญญาณ รูปตะเกียงน้ำมันมีน้ำหยด ขึ้นมาบนหน้าปัดรถยนต์ของคุณ มันบ่งบอกว่า น้ำมันในเครื่องยนต์ต่ำมาก และไม่สามารถไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ได้เพียงพอ ควรรีบนำไปตรวจเช็กและแก้ไขให้เรียบร้อย ไม่ต้องฝืนใช้รถต่อไปเรื่อยๆ

แต่หากเช็กแล้วไม่พบความผิดปกติ น้ำมันอยู่ในระดับปกติ แต่ยังปรากฎสัญญาณนี้ให้เห็นอยู่ ก็อาจจะเกิดปัญหาที่ปั๊มหัวจ่ายน้ำมันเครื่องได้เช่นกัน ส่งผลให้น้ำมันไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ไม่เพียงพอ และแสดงรูปตะเกียงน้ำมันมีน้ำหยดขึ้นมา

5. สัญญาณไฟรูปปรอทมีขีดระดับน้ำ

หรือ ไฟเตือนอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นสูง นั่นบ่งบอกว่า หม้อน้ำอยู่ในระดับผิดปกติ หากเครื่องยนต์มีความร้อนสูงเกินกว่าระดับอุณหภูมิทำงาน ก็จะปรากฎสัญญาณนี้ให้เห็นบนหน้าปัด ไม่ควรใช้งานต่อ เพราะอาจทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ เพราะอุณหภูมิของเครื่องยนต์มีระดับที่สูงกว่าระดับที่เครื่องยนต์จะทำงานได้ตามปกติ

หากเกิดเหตุการณ์ที่หม้อน้ำร้อนผิดปกติ สิ่งที่ควรทำก็คือ จอดรถโดยทันที จะช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นได้

6. ไ ฟ เ ตื อ น ระบบเบรกแบบป้องกันล้อล็อค (ABS)

ส า เ ห ตุ ที่ทำให้ปรากฎสัญญาณนี้ขึ้นมาที่หน้าปัดรถของคุณ อาจจะเกิดจากการขับรถลุยน้ำ ทำให้ระบบไฟฟ้าเกิดการลงกราวด์ เมื่อแห้งสัญญาณก็จะดับไปเอง แต่หากขับรถบนถนนปกติ แล้วปรากฎสัญญาณนี้ขึ้นมา แล้วหายไปเอง ควรนำเข้าอู่เพื่อตรวจเช็กอย่างด่วน เพราะ ไ ฟ เ ตือ น นี้ ก็อาจจะมีสาเหตุอื่นๆอีกได้ เช่น ผ้าเบรกหมด หรือ ระดับน้ำมันเบรกต่ำกว่ากำหนด

สำคัญมาก หากในระหว่างขับรถ แล้วมีสัญญาณ ABS ปรากฏขึ้นมา ควรจอดรถแล้วนำรถเข้าเช็กทันที แม้ระบบเบรกจะยังทำงานได้อยู่ก็ตาม แต่หากมีการเบรกกระทันหัน ระบบ ABS อาจจะไม่ทำงาน มันส่งผลถึงความปลอดภัยของคุณ

7. สัญญาณ ไ ฟ รูปตู้จ่ายน้ำมัน มีจุดๆด้านล่าง

หลายคนอาจจะคิดว่าเป็นการ เ ตื อ น ว่า น้ำมันใกล้จะหมดแล้ว คุณกำลังเข้าใจผิด รูปอาจจะคล้ายๆกันแต่มันคือคนละอย่าง สัญญาณนี้หากปรากฏอยู่บนหน้าปัดรถยนต์ของคุณ หมายความว่า กรองน้ำมันกำลังมีปัญหา อาจมีน้ำผสมอยู่ในน้ำมัน หรือ เกิดจากการที่กรองน้ำมันตัน สิ่งที่ควรจะทำ คือการนำรถเข้าอู่ หรือศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กกรองน้ำมันให้เรียบร้อย

สัญลักษณ์ต่างๆ บนหน้าปัดรถยนต์ มีด้วยกันหลายสี และแต่ละสีก็มีความที่แตกต่างกันไป

สัญลักษณ์ที่มีสีเขียว หมายถึง อุปกรณ์มีการเปิดใช้งาน หรือ กำลังทำงานอยู่

สัญลักษณ์ที่มีสีส้ม หรือสีเหลือง แสดงว่ากำลังมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับระบบเครื่องยนต์ ให้ทำการตรวจสอบ การทำงานตามความเหมาะสม

สัญลักษณ์ที่มีสีแดง หมายความว่า อั น ต ร า ย ให้หยุดการขับขี่ และทำการตรวจสอบโดยเร็ว

สัญลักษณ์อื่นๆ บนหน้าปัดรถ (ที่หลายคนน่าจะรู้จักอยู่แล้ว)

– สัญญาณไ ฟ เลี้ยว / ไ ฟ กระพริบ ฉุ ก เ ฉิ น

– ไ ฟ แสดง ไ ฟ ตั ด หมอกหน้า /หลัง

– ไ ฟ เ ตื อ น ประตูเปิด

– ไ ฟ เ ตือ น การคาดเข็มขัดนิรภัย

– ไ ฟ แสดงการใช้ไ ฟ สูง / ต่ำ

– ไ ฟ เ ตื อ น น้ำมันเชื้อเพลิงมีระดับต่ำ

สัญญาณบนหน้าปัด อาจจะมีมากจนไม่สามารถจำได้ทั้งหมด แต่หากเราหมั่นศึกษาบ่อยๆ ก็จะช่วยให้เราพอมีความรู้และมีพื้นฐานในการตรวจเช็กบ้าง และมันจะช่วยให้คุณขับขี่รถได้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เราไม่ควรละเลยสัญญาณบนหน้าปัดรถกันนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : kmotors

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น

27 + = 32

Back To Top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า