เตรียมพร้อม “เราไปเที่ยวกัน” เตรียมเปิดชิงสิทธิ์ที่พัก 5 ล้านคืน 1 กรกฎาคมนี้ ด้าน “ททท.” มั่นใ จ “กำลังใ จ-เราไปเที่ยวกัน-เที่ยวปันสุข” ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยไ ม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมภาคการท่องเที่ยว ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ตามที่คณะกร รมการก ลั่นกรอ งการใช้เงินกู้เสนอ วงเงิน 22,400 ล้านบาท ประกอบด้วย 3 โครงการ คือ กำลังใ จ, เราไปเที่ยวกัน และ เที่ยวปันสุข โดยระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม 2563 รวมระยะเวลา 4 เดือนนั้น
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการ ททท. กล่าวว่า ประชาชนที่เข้าร่วมในโครงการ “เราไปเที่ยวกัน” 1 คนจะได้ 1 สิทธิ์ พักโรงแรมได้ไ ม่เกิน 5 คืน ซึ่งเงื่อนไขที่วางไว้ว่ารัฐบาลจ่ายให้ 40% ไ ม่เกิน 3,000 บาทต่อห้องต่อคืน เท่ากับราคาห้องสูงสุดจะอยู่ที่คืนละ 7,500 บาท ถ้าใช้สิทธิ์เต็ม 5 คืน เท่ากับรัฐบาลจะจ่ายค่าที่พัก 15,000 บาทแทนผู้ใช้สิทธิ์
จากนั้น สำหรับผู้ที่สนใ จจะรับสิทธิ์ จะต้องเช็ครายชื่อโรงแรมที่พักที่เข้าร่วมโครงการ ก่อนจองในเว็บไซต์ที่กำลังจะเปิดตัว แล้วต้องจ่ายเงินให้กับโรงแรมที่พักทันที 60% เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้ ต้องไปลงทะเบียนในระบบของเว็บไซต์เดิมอีกครั้ง เพื่อยืนยันว่าไปเที่ยวจริง แล้วระบบจะโอนเงินอีก 40% ให้ที่พักเอง โดยรัฐบาลจะจ่ายให้ผู้ประกอบการ ไ ม่ใช่คืนมาที่ผู้เข้าพัก พร้อมสิทธิ์ E-Voucher ผ่านแอปเป๋าตัง 600 บาทต่อคืน
สำหรับสิทธิ์ E-Voucher จำนวน 600 บาทนั้น ไ ม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ และสามารถใช้ได้ 3 กรณี คือ
1 ร้านอาหารในโรงแรมที่เข้าพัก
2 ร้านอาหารนอกโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะมีทั้งร้านอาหารขนาดใหญ่ เล็ก และร้านอาหารริมทาง ซึ่งจะมีรายชื่อปรากฏในเว็บไซต์
3 การแสดงที่ต้องซื้อบัตรเข้าชม โดยการใช้สิทธิ์ E-Voucher ต้องเป็นการร่วมจ่ายกับรัฐบาล คือ รัฐบาลจ่ายให้ 40% เช่น ทานอาหารในโรงแรม 1 พันบาท ร้านอาหารจะคิดเงิน 600 บาท ส่วนอีก 400 บาทระบบจะตัดจาก E-Voucher อัตโนมัติ
ศูนย์ข้อมูล C O V I D รายงานว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. เปิดเผยถึงรายละเอี ยดของโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สังคม ภาคการท่องเที่ยว หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เห็นชอบหลักการตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ เพื่อบรรเทาผลกระทบภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการแ พร่ระบ าดของโ รคโ ควิ ด ว่า โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 4 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 22,400 ล้านบาท
ภายใต้การดำเนินงาน 3 โครงการประกอบด้วย โครงการกำลังใ จ รัฐบาลสนับสนุนค่าเดินทางท่องเที่ยวภ ายใ นประเทศให้กับอาสาสมัครสาธารสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม.และเจ้าหน้าที่โรงพย าบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทั่วประเทศจำนวน 1.2 ล้านคน คนละไ ม่เกิน 2,000 บาท รวมงบประมาณ 2,400 ล้านบาท
โครงการเราไปเที่ยวกัน รัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรมที่พักในลักษณะร่วมจ่ายหรือ Co-pay ระหว่างนักท่องเที่ยวและรัฐไปยังผู้ประกอบการเพียงร้อยละ 40 ของค่าห้องพักแต่ไ ม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน เป้ าหมาย 5 ล้านห้องทั่วประเทศ โดยเปิดให้รับสิทธิ์ 1 คนต่อ 5 คืน รวมถึงการสนับสนุนค่าอาหารและค่าใช้จ่ายสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการอีกไ ม่เกิน 600 บาทต่อคืน รวมวงเงินงบประมาณ 18,000 ล้านบาท
โครงการเที่ยวปันสุข รัฐบาลสนับสนุนการเดินทางให้กับประชาชนอายุไ ม่ต่ำกว่า 20 ปีเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณข้ามจังหวัด จำนวน 2 ล้านคน ในกลุ่มผู้ประกอบการสายการบิน รถขนส่งไ ม่ประจำทางข้ามจังหวัด และรถเช่าในอัตรา 40% ของราคาบัตรโดยสารแต่ไ ม่เกิน 1,000 บาท รวมงบประมาณ 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ คาดว่าทั้ง 3 โครงการจะช่วยกระตุ้ นเศรษฐกิจมีเม็ดเงินหมุนเวียนทางตรงไ ม่ต่ำกว่า 45,000 ล้านบาท ทางอ้อมไ ม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานไ ม่ต่ำกว่า 43,000 คน กระตุ้ นตัวเลขเศรษฐกิจหรือ GDP ไ ม่น้อยกว่า 0.3% รวมถึงภาคการบริโภคขยายตัว 0.5%
สำหรับแนวทางการดำเนินงาน ธนาคารกรุงไทย ได้จัดทำแพลตฟอร์มสำหรับใช้เป็นช่องทางในการรวบรวมข้อมูลและรายละเอีย ดโรงแรมที่พัก รายการนำเที่ยวจากบริษัทนำเที่ยว รายละเอียดบัตรโดยสารของผู้ประกอบธุรกิจขนส่งเพื่อการท่องเที่ยวร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการเพื่อตรวจสอบการจดทะเบียนตามกฎหมายร่วมกับ ททท.
จากนั้นผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะนำเสนอรายละเอีย ดสินค้าและบริการในแพลตฟอร์มตามข้อกำหนดด้านราคาที่กำหนดในรายละเอี ยดของโครงการ โดย ททท. จะทำหน้าที่ในการสื่อสารโครงการเพื่อให้นักท่องเที่ยวแจ้งความต้องประสงค์ขอรับสิทธิ์หรือดำเนินการซื้อสินค้าบริการในแพลตฟอร์ม แล้วชำระค่าบริการตามข้อกำหนดของโครงการแล้วจะได้รับสิทธิ์ในการใช้บริการ การใช้จ่าย หรือการคืนเงินจะผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารกรุงไทย
อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจน และจะนำเสนอรายละเอียดขั้นตอนวิธีการดำเนินโครงการทั้งหมดต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป
ที่มา thebangkokinsight